takrawlive

กมล ตันกิมหงษ์ เฮดโค้ชตะกร้อไทย หวังทีมชุดชายไทยคว้าแชมป์ สมัยที่ 31 ในศึกเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน

กมล ตันกิมหงษ์ เฮดโค้ชตะกร้อไทย หวังทีมชุดชายไทยคว้าแชมป์ สมัยที่ 31 ในศึกเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลก ชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 33 ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ระหว่างวันที่ 23-30 ก.ย.นี้ แต่จะไม่ประมาทเด็ดขาด เพราะชาติอื่นเริ่มใช้โค้ชไทยกันหมดแล้ว รวมทั้งยังมาแข่งขันและฝึกซ้อมที่เมืองไทยด้วย ส่วนคู่แข่งหนีไม่พ้นมาเลเซีย เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย

สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทยประกาศรายชื่อนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทยชุดเข้าร่วมการแข่งขันเซปักตะกร้อชิงแชมป์โลกชิงถ้วยพระราชทาน“คิงส์คัพ”ครั้งที่33ที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21จ.นครราชสีมาระหว่างวันที่23-30ก.ย.นี้สำหรับการแข่งขันครั้งนี้ มี29ชาติเข้าร่วมชิงชัย ใน 10 ประเภท โดยทีมตะกร้อไทยส่งเข้าร่วม 6 ประเภท คือทีมชุดชาย ชิงถ้วยพระราชทาน รัชกาลที่ 10 ซึ่งทีมไทยเป็นแชมป์ 30 สมัย, ทีมชุดหญิง ทีมไทยเป็นแชมป์ติดต่อกัน 20 สมัย, ตะกร้อ 4 คนชาย, ตะกร้อ 4 คนหญิง, ตะกร้อลอดห่วงสากลชาย และตะกร้อลอดห่วงสากลหญิง

takrawlive

ส่วนอีก 4 ประเภทที่แข่งขัน คือคู่ชาย, คู่หญิง, ทีมเดี่ยวชาย และทีมเดี่ยวหญิง ในส่วนของทีมไทยฝ่ายชายยังคงยึดตัวหลักจากชุดเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 18 ที่ประเทศอินโดนีเซีย นำโดย “ปุ้ย” พรชัย เค้าแก้ว ตัวฟาดจอมเก๋าวัย 37ปีร่วมด้วยศิริวัฒน์สาขา,สิทธิพงษ์คำจันทร์,จันทฤทธิ์คู่แก้ว,กฤษณะพงษ์นนทโคตร,ธนวัฒน์ชุ่มเสนา,ภัทรพงษ์ยุพดี,อัษดินวงษ์โยธา,เสกสรรทับทอง,อนุวัฒน์ชัยชนะ,จิระศักดิ์ผักบัวเงิน,ทวีศักดิ์ทองสายและราชันวิพันธ์ขณะที่ทีมตะกร้อหญิงมีเซอร์ไพรส์ “อุ้ม”อติกานต์ คงแก้ว ตัวเสิร์ฟดาวรุ่งวัย18ปีและ“จุ๋ม”ศิริผลชัยสิทธิ์

ตัวชงหน้าสวยที่ได้ประเดิมทีมชาติไทยเป็นครั้งแรก โดยมี “เปิ้ล” พยอม ศรีหงษา เป็นจอมทัพ ร่วมด้วย มัสยาดวงศรี,ศิรินันท์เขียวปัก,แก้วใจพุ่มสว่างแก้ว,วิภาดาจิตพรวน,ฐิติมา มหากุศล,สุพัตตรา เบี้ยทอง,เฟื่องฟ้าประภัศรางค์,สมฤดีปรือปรัก,นิสาธนะอรรถวุฒิและศศิวิมลจันทสิทธิ์“โค้ชกมล”นายกมลตันกิมหงษ์หัวหน้าผู้ฝึกสอนตะกร้อทีมชาติไทย

เปิดเผยว่ารายชื่อที่ประกาศออกมานั้นได้ส่งให้กับสมาคมกีฬาตะกร้อฯ ตั้งแต่หลังกลับมาจากเอเชียนเกมส์ซึ่งจะต้องเช็กอาการบาดเจ็บของนักกีฬาจนวันสุดท้ายในการประชุมผู้จัดการทีมวันที่ 22 ก.ย.นี้ ขณะที่เป้าหมายในการแข่งขันครั้งนี้ตามนโยบายของ พล.ต.จารึก อารีราชการัณย์ นายกสมาคมกีฬาตะกร้อฯบอกเอาไว้ชัดเจนว่าจะต้องไม่พลาด

“ในกีฬาตะกร้อแน่นอนว่าไทยจะต้องไม่พลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งรายการนี้เป็นถ้วยพระราชทานก็จะต้องคว้าแชมป์สมัยที่ 31 มาครองให้ได้เท่านั้น อย่างไรก็ตาม คงจะต้องไม่ประมาท เพราะชาติอื่นเขาเริ่มมาใช้โค้ชไทยกันหมดแล้ว รวมทั้งยังมาแข่งขันและฝึกซ้อมที่เมืองไทยด้วย ส่วนคู่แข่งในประเภททีมชุดชายก็คงหนีไม่พ้นมาเลเซีย, เกาหลีใต้ และอินโดนีเซีย” โค้ชกมล กล่าว.